ไทม์ไลน์ เบ็นเท็น (Ben 10) ครบทุกภาค

ซีรีส์การ์ตูน “เบ็นเท็น” (Ben 10) การ์ตูนชื่อดังและเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวเริ่มต้นมาจากเด็กชายวัย 10 ขวบ เขาได้กลายเป็นฮีโร่ที่อายุน้อยที่สุดในปรากฎการณ์! เป็นการ์ตูนที่เราแนะนำเลยค่ะว่าน่าดูมากๆ มีข้อคิดดีๆ เหมาะกับการเป็นตัวอย่างที่ดีอีกด้วยเนื้อเรื่องเริ่มต้นมาจาก การผจญภัยของ เบน ทิสัน (Ben Tennyson) เด็กหนุ่มที่สามารถแปลงร่างเป็นเอเลี่ยนต่างๆ ได้ด้วยการใช้ Omnitrix อุปกรณ์ที่เขาพบในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน! และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล ซีรีส์การ์ตูน “เบ็นเท็น” ยังมีอีกหลายภาคที่ทำให้คนดูถึงกับร้องว้าวไม่ไหวเลยจริง ๆ การผจญภัยในช่วงวัยรุ่นก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่หลายๆ คนชื่นชอบเพราะเป็นช่วงที่มีตัวละครเพิ่มมากขึ้นความสามารถก็ต่างไปจากเดิมด้วย แต่ก่อนจะไปหาดูมาอ่านเรื่องย่อเรียลไทม์จากบทความของเรากันก่อนดีกว่าค่ะ รับรองเลยว่าถูกใจเพราะเราคัดสรรแต่เรื่องเน้นๆ มาให้ไม่งงแน่นอน

ประวัติผู้เขียนเบ็นเท็น

ซีรีส์การ์ตูน “เบ็นเท็น” (Ben 10) ใช้ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานของนักเขียนหลายคน โดยในวงการการ์ตูนมีชื่อว่า”Man of Action” ซึ่งเป็นทีมที่รวมตัวของนักเขียนการ์ตูนชื่อดังหลายคน ได้แก่ ดันแคน รูโล่ (Duncan Rouleau), โจ เคซี่ย์ (Joe Casey), โจ เคลลี่ (Joe Kelly) และสตีเว่น ที. ซีเกิล (Steven T. Seagle) และแต่ละคนมีความสามารถและประวัติดังต่อไปนี้ค่ะ

• ดันแคน รูโล่ (Duncan Rouleau) เขาเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมากและยังเป็นนักวาดการ์ตูนอีกด้วย มีผลงานที่สร้างสรรค์ต่างๆ มากมาย ในวงการการ์ตูนและอนิเมชั่น ทั้งการวาดภาพประกอบการเขียนสำหรับ Marvel Comics และ DC Comics นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่ตั้งกลุ่ม Man of Action และยังมีบทบาทในการสร้างสรรค์ตัวละครและเนื้อเรื่องของ “เบ็นเท็น” อีกด้วย
• โจ เคซี่ย์ (Joe Casey) เป็นอีกคนที่ได้ร่วมการพัฒนาเนื้อเรื่องของตัวละครของ “เบ็นเท็น” นอกจากนี้เขายังเป็นนักเขียนการ์ตูนที่มีประการณ์ในการทำงาน กับ Marvel Comics และ DC Comics เช่นกัน และมีผลงานอย่าง X-Men, The Avengers และ Superman
• โจ เคลลี่ (Joe Kelly) เขาเคยทำงานกับ Marvel Comics และ DC Comics โดยมีผลงานที่เป็นที่รู้จัก เช่น Deadpool และ Justice League of America เป็นนักเขียนการ์ตูนมากฝีมืออีกคนและยังมีผลงานเขียนบทกับรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงอีกด้วยทำให้เขาสามารถนำเสนอเนื้อเรื่องที่มีความเข้มข้นและน่าสนใจใน “เบ็นเท็น” ได้เป็นอย่างดี
• สตีเว่น ที. ซีเกิล (Steven T. Seagle) เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Man of Action และมีผลงานมากมายในวงการการ์ตูน รวมถึงการทำงานกับ Marvel Comics และ DC Comics และเป็นอีกคนสำคัญที่ได้สร้างสรรค์ผลงาน”เบ็นเท็น”
“เบ็นเท็น” เป็นผลงานและความสำเร็จจากกลุ่ม Man of Action เปิดตัวครั้งแรกในปี 2005 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและยังได้รับการพัฒนาสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นทำให้ “เบ็นเท็น” กลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์การ์ตูนที่ประสบความสำเร็จและมีผู้ชมทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบันนั่นเองค่ะ

เรื่องย่อทุกภาคเบ็นเท็น (Ben 10)

1. เบ็นเท็น (Ben 10) ออกอากาศครั้งแรก 2005-2008 เป็นภาคแรกและเป็นเรื่องราวของจุดเริ่มต้นทั้งหมด เมื่อเบน ทิสัน เด็กหนุ่มวัย 10 ปี ค้นพบ Omnitrix หรือที่เราเห็นเป็นนาฬิกาที่เขาสวมใส่ไว้นั่นเองค่ะ เพราะสิ่งนี้ทำให้เขาแปลงร่างเป็นเอเลี่ยนต่างๆ ได้ถึง 10 ตัว โดยที่เขาเลือกจะใช้พลังงานต่อสู้กับวายร้ายต่างๆ เพื่อปกป้องโลกให้อยู่แบบสันติและยังมีเกวน ทิสัน ลูกพี่ลูกน้อง และคุณปู่แม็กซ์ เป็นผู้ช่วยและเพื่อนร่วมทางอีกด้วย
2. เบ็นเท็น เอเลี่ยนฟอร์ซ (Ben 10 Alien Force)ออกอากาศครั้งแรก 2008-2010 เป็นภาคที่เบ็นเท็นอายุ 15 ปี! เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดได้ขึ้นเพื่อคุณปู่แม็กซ์ได้หายตัวไป ทำให้เขาได้กลับมาใช้งาน Omnitrix อีกครั้ง เขายังได้พบกับเอเลี่ยนใหม่ๆ และยังต้องรับมือกับเผ่า Highbreed ที่พยายามทำลายล้างโลกอีกด้วยโดยมีเกวนและเควิน เลวิน เป็นเพื่อนร่วมทีมเหมือนเช่นเคย
3. เบ็นเท็น อัลติเมทเอเลี่ยน (Ben 10 Ultimate Alien)ออกอากาศครั้งแรก: 2010-2012 นับว่าเป็นภาคโตและช่วงเป็นวัยรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงมากๆ เลยค่ะภาคนี้ ทั้งความสามารถพิเศษที่เพิ่มขึ้น เขาสามารถที่จะแปลงร่างเป็นเอเลี่ยนในรูปแบบ Ultimate ได้ และในภาคนี้เขาได้พบศัตรูรายใหญ่อย่าง Aggregor ที่ต้องการรวบรวมพลังของเอเลี่ยนที่ทรงพลังที่สุดอีกด้วย
4. เบ็นเท็น โอมนิเวิร์ส (Ben 10: Omniverse)ออกอากาศครั้งแรก: 2012-2014 เป็นรอยต่อของภาคก่อน ในภาคนี้เขาจะมีอายุ 16 ย่าง 17 ปี และได้รับ Omnitrix รุ่นใหม่ที่สามารถแปลงร่างเป็นเอเลี่ยนหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิมด้วย นอกจากนี้ยังต้องรับมือกับการต่อสู้กับ Khyber และ Maltruant ที่พยายามจะควบคุมเวลาและอวกาศ แต่เขาก็ได้เพื่อนใหม่ Rook Blonko ในการร่วมต่อสู้ครั้งนี้ด้วย
5. เบ็นเท็น รีบูท (Ben 10 Reboot)ออกอากาศครั้งแรก 2016-2021 เป็นภาคล่าสุดที่นำเรื่องราวมานำเสนอใหม่ แต่ยังยึดความคิดเดิมๆ ของเด็กหนุ่มเบ็นเท็นไว้ มีการปรับปรุงและพัฒนารูปแบบให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงการต่อสู้กับวายร้านที่เก่งกาจขึ้นอีกด้วย

เบ็นเท็น โอมนิเวิร์ส (Ben 10: Omniverse) ภาคสุดท้ายทิ้งปมอะไรไว้ไหม?

ในภาคนี้ได้ทิ้งปมเรื่องราวของ Maltruant ที่พยายามจะควบคุมเวลาและอวกาศ!ในภาคนี้ถือว่าเป็นภาคสุดท้ายในไทม์ไลน์หลักของเบ็นเท็น ปมครั้งนี้ทำให้เบ็นเท็นต้องหาทางที่จะหยุดเขาให้ได้แม้จะเจออุปสรรคต่างๆ มากมายก็ตาม และนอกจากนี้ในเนื้อเรื่องยังมีความซับซ้อนและมีความเข้มข้นมากขึ้นอีกด้วยทำให้แฟนๆ หลายคนมีการคาดหวังการต่อสู้ในภาคอนาคต และการควบคุมเวลาและอวกาศอาจจะถูกนำมาต่อยอดในภาคต่อไป

ภาคไหนที่ทำรายได้ดีที่สุดจากข้อมูลล่าสุด วันที่ 24-6-67 

ทางการตลาด ภาค “เบ็นเท็น เอเลี่ยนฟอร์ซ” (Ben 10: Alien Force) เป็นภาคที่เข้าถึงคนดูและทำรายได้มากที่สุดค่ะ และไม่ใช่เป็นเพียงการ์ตูนยอดฮิตแต่เสียงตอบรับความชอบยังมาจากสิ้นค้าต่างๆ ในระดับสูงอีกด้วยเพราะภาคนี้มี เนื้อเรื่องที่เข้มข้นและการพัฒนาในด้านตัวละครทำให้ภาคนี้ได้รับความนิยมอย่างมากนั่นเองค่ะ

ภาคในอนาคตเบ็นเท็นน่าจะเป็นอย่างไงมุมมองจากแฟนๆ

สำหรับแฟนๆ มีการคาดเดาว่าจะมีการพัฒนาเรื่องราวที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น และตัวละครเพิ่มขึ้นโดยมุ่งมั่นให้เบ็นเท็นเติบโตเป็นฮีโร่ที่เป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว รวมถึงการมีครอบครัวและการใช้ชีวิตในประจำวันของเขาด้วย การเผชิญกับศัตรูที่มีพลังแข็งแร่งและความสามารถที่เหนือกว่า รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น การแปลงร่างเอเลี่ยนในร่างใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังอยากให้เนื้อเรื่องในภาคอนาคตมีการเชื่อมโยงไปหาภาคเก่าๆ ได้แบบลงตัวที่สุดอีกด้วย เพิ่มความลึกซึ้งในเรื่องราวของตัวละคร รวมถึงการแนะนำตัวละครใหม่ๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการผจญภัยของเบ็นเท็นที่มากขึ้นกว่าเดิม

ข้อดีของการ์ตูน์เบ็นเท็นมีอะไรบ้าง?

1. เนื้อเรื่องที่น่าติดตาม  การ์ตูนเบ็นเท็นมีการพัฒนาเนื้อเรื่องอยู่ตลอด ทั้งการค้นพบ Omnitrix ในภาคแรกไปจนถึงการใช้พลังที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เจอเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและซับซ้อนทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อหน่ายและยังเชื่อมโยงไปถึงภาคในอนาคตทำให้ผู้ชมได้ติดตามต่ออย่างต่อเนื่อง
2. การพัฒนาตัวละคร เป็นการ์ตูนที่ได้รับการพัฒนาตัวละครอย่างเห็นได้ชัด จากเบ็นเท็นในภาคแรก อายุ 10 ปี ที่มีความซุกซนจนได้รับการพัฒนาไปช่วงวัยรุ่นซึ่งทำให้คนดูเข้าใจถึงตัวละครหลักได้ทุกภาค สามารถเชื่อมโยงและเข้าใจตัวละครได้ดีขึ้น
3. ความหลากหลายของเอเลี่ยน Omnitrix ที่เบ็นเท็นใช้มีความสามารถในการแปลงร่างเป็นเอเลี่ยนได้หลากหลายชนิดและยังมีพลังงานที่ต่างกันออกไป ทำให้ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะเบ็นเท็นสามารถเปลี่ยนแปลงร่างเอเลี่ยนตามที่เขาต้องการได้ ไม่ว่าจะเลือกงานแบบไหน ทั้งความรวดเร็ว, พลังเวทมนตร์,ความแข็งแกร่ง และความสามารถด้านอื่นๆ
4. การสร้างสรรค์และเทคโนโลยี การ์ตูนเบ็นเท็นสร้างความทันสมัยด้วยเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้น ทำให้ตัวการ์ตูนสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และนอกจากนี้ยังมีการใช้ใช้เอฟเฟกต์พิเศษในการแปลงร่างและการต่อสู้ สิ่งนี้ทำให้ตัวการ์ตูนมีความน่าตื่นเต้นและมีความสนุกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
5. ข้อคิดและการเรียนรู้ แน่นอนว่าการ์ตูนเบ็นเท็นไม่ใช่การต่อสู้เพียงอย่างเดียวแต่ยังเป็นการ์ตูนที่มีข้อคิดต่างๆ ทั้งการเรียนรู้และความรับผิดชอบมิตรภาพ, และการทำงานเป็นทีม เพราะเบ็นเท็นต้องใช้พลังงานในการรับผิดชอบเพื่อปกป้องผู้อื่นและปกป้องโลกให้อยู่แบบสันติ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีกับเด็กๆ ข้อเสีย ในเนื้อเรื่องการ์ตูนเบ็นเท็นในบ้างฉากอาจทำให้เด็กๆ ได้รับชมอย่างไม่เหมาะสม ทั้งการพูดหรือการสื่อสารต่างๆ แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น้อยนิดมากๆ สำหรับการ์ตูนในเรื่องนี้ เบ็นเท็นยังเป็นการ์ตูนที่สามารถรับชมได้อย่างอิสระผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จากค่ายสตรีมมิ่งนำอย่าง HBO Max มีซีรีส์ Ben 10 Omniverse และ Ben 10 (2016) พร้อมให้รับชม, Netflix มีซีรีส์ Ben 10 (2016) ภาคแรกถึงภาคสาม , Amazon Prime Video มีซีรีส์ Ben 10 Omniverse Season 3 และช่องทีวีCartoon Network ฉายการ์ตูนเบ็นเท็นอยู่เป็นประจำ  

บทสรุปไทม์ไลน์ เบ็นเท็น (Ben 10)

จากบทความด้านบนเราเชื่อว่ามีเพื่อนๆ หลายคนหายสงสัยสำหรับการดูเรียลไทม์เบ็นเท็นเลยใช่ไหมค่ะ? การ์ตูนเรื่องนี้ได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ไว้มากมาย และเป็นการ์ตูนที่มีข้อคิดและคำแนะนำดีๆ จากเด็กผู้ชายวัย 10 ขวบ ดั่งชื่อที่เรียกว่า เบ็นเท็น BEN10 แบบลงตัวนั่นเองค่ะ ฮีโร่ที่อายุน้องที่สุดในประวัติศาสตร์ การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด (จนภาคตอนโตเบ็นเท็นมีอายุ 16 ปี) แต่ละภาคนั้นมีความซับซ้อนและมีการเชื่อมโยงตัวละครต่างๆ ได้เป็นอย่างดี  ภาคที่ทำรายได้ดีที่สุดคือ “เบ็นเท็น เอเลี่ยนฟอร์ซ” ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดด้วย และภาคสุดท้าย “เบ็นเท็น โอมนิเวิร์ส” ได้ทิ้งปมเรื่องการควบคุมเวลาและอวกาศไว้ ซึ่งทำให้แฟนๆ คาดหวังถึงเนื้อเรื่องในอนาคตที่เข้มข้นและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แฟน ๆ ยังมีการคาดหวังให้เนื้อเรื่องในภาคอนาคตมีการเชื่อมโยงกับตัวละครเก่าๆ อีกด้วย “เบ็นเท็น” ยังคงเป็นที่รักของผู้ชมทั่วโลก ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกสนานและตัวละครที่น่าจดจำ เบ็นเท็นยังคงสร้างความสนุกให้กับทุกคนจนถึงปัจจุบันเรามุ่งหวังให้การ์ตูนดีๆ แบบนี้อยู่ไปจนตลอดกาลเลยค่ะ เป็นการ์ตูนตัวอย่างที่ส่งเสริมให้และเด็กๆ เป็นคนดีในอนาคตอีกด้วย